เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

สุเมธ เตชะรักษ์พงศ์ : คริสต์มาส(ที่)ให้ด้วยรัก
อ.สุเมธ เตชะรักษ์พงศ์ ประธานจัดงาน "คริสต์มาสให้ด้วยรัก" อธิบายถึงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้อย่างไม่ซับซ้อน ว่าเป็นการส่งเสริมความเข้าใจและการรับรู้ความหมายที่แท้จริงของวันคริสต์มาสให้กับคนไทย โดยหลักๆ คือการทำให้ทุกคนรู้ว่าพระเยซูคือเจ้าของวันคริสต์มาส และเชิญชวนคริสเตียนทุกคนมาร่วมเป็นเจ้าภาพในการมอบของขวัญให้กับเด็กด้อยโอกาส ซึ่งพระเยซูถือเป็นของขวัญชิ้นแรกของวันนั้น กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์ในการส่งต่อความรักผ่านการมอบของขวัญในวันคริสต์มาส

การจัดกิจกรรมนี้เป็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่เริ่มต้นในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่โลกต้องเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การจัดงานคริสต์มาสในทุกที่มีปัญหา แต่ทีมงานตัดสินใจที่จะเชิญชวนทุกคนมาร่วมรายการคริสต์มาสออนไลน์ และเชิญศิลปินและนักร้องมาร่วมกัน ในขณะที่ครั้งที่ 2 ทางคณะกรรมการเพื่อการประกาศและเพิ่มพูนคริสตจักร หรือ กปพ. ได้ขอให้มาร่วมจัดรายการออนไลน์ในโครงการ "Amazing Christmas"

ในปีที่ 3 ทางทีมงานตัดสินใจเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มกิจกรรมหลักเป็น 2 กิจกรรม โดยมีรายการคริสต์มาสออนไลน์เหมือนปีที่ผ่านมา และยังมีกิจกรรมที่สองที่เป็นไฮไลท์ ก็คือกิจกรรมมอบของขวัญแก่เด็ก ๆ ด้อยโอกาส และในปีที่ 4 ซึ่งคือที่แล้ว ปี 2023 ทางทีมงานได้มอบของขวัญให้กับเด็ก ๆ และมีการเชิญชวนผู้ใหญ่ใจดีมาร่วมมอบของให้กับน้อง ๆ ที่ไม่มีโอกาสที่จะได้ของขวัญ ซึ่งปีที่แล้วมีการเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น จากที่จะมอบของให้กับเด็กทั้งหมด 10,000 คน เป็น 30,000 คน โดยมีการจัดงานใน 267 แห่ง กว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีกว่า 100 แห่งเป็นโรงเรียน ซึ่งคริสตจักรที่เข้าร่วม 205 แห่ง และอาสาสมัครรวมกันเกือบสองพันคน

นอกจากนี้ อ.สุเมธ ยังกล่าวถึงความสำเร็จของกิจกรรมคริสต์มาสให้ด้วยรักอีกว่า ปีนี้ได้รับการรายงานว่ามีผู้ที่รับเชื่อมากถึง 6,800 คน จากผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดทั่วประเทศ ราว 45,000 คน ซึ่งคริสต์มาสให้ด้วยรักยังเปิดโอกาสให้คริสตจักรได้มีโอกาสจัดงานนอกคริสตจักร เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับชุมชนอีกด้วย

"ฟังแล้วชื่นใจนะ เพราะว่าได้เห็นภาพว่าคริสต์มาสให้ด้วยรัก เป็นเหตุให้เรามีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้ว ยังมีส่วนผลักดันให้โบสถ์นั้นออกไปบอกเล่าความหมายที่แท้จริงของวันคริสต์มาสกับชุมชน ให้เขาได้รู้จัก และด้วยเหตุของวันคริสต์มาส ทำให้สามารถไปจัดในโรงเรียนได้อีกด้วย" อ.สุเมธ กล่าว