เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้
ความท้าทายของการประกาศในยุคปัจจุบันของคริสเตียน คุยกับ อ.ซิดนีย์ โมเฮดี จาก JPCC ที่ให้คนได้เห็นพระเยซูผ่านชีวิตและตัวตนที่ไม่เหมือนใคร
ในยุคปัจจุบันที่ความเชื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก การที่ผู้คนเข้าร่วมคริสตจักรมีแนวโน้มลดลงนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ในขณะความสนใจในเรื่องพระเจ้าและจิตวิญญาณกลับเพิ่มขึ้น สถานการณ์นี้มีความคล้ายคลึงกันทั้งในประเทศไทยและอินโดนีเซียที่คริสเตียนเป็นประชากรส่วนน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับประชากรส่วนใหญ่ที่เป็นชาวพุทธในประเทศไทย และมุสลิมในอินโดนีเซีย
การสื่อสารและแบ่งปันข่าวประเสริฐในยุคนี้จึงมีความท้าทาย ทำเราต้องปรับวิธีการให้แตกต่างออกไปจากการประกาศข่าวประเสริฐตามท้องถนนหรือในที่สาธารณะ ซึ่งอาจไม่เพียงพออีกต่อไป สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการเป็นประจักษ์พยานในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงแค่พูดถึงพระเยซูคริสต์ แต่ต้องเป็นสาวกของพระองค์อย่างแท้จริง เพื่อให้ทุกสิ่งที่เราทำ คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นคริสเตียนหรือไม่ มองเห็นชีวิตของเราและสรรเสริญพระเจ้า
อาจารย์ซิดนีย์ โมเฮดี ศิษยาภิบาลผู้นำและกำกับทีมสร้างสรรค์ JPCC กล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างว่าชีวิตครอบครัวและการแต่งงานของเขามีความพิเศษ ซึ่งเขามักจะบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาเดินตามพระเยซูคริสต์และยึดถือแบบอย่างของพระองค์
“สำหรับผม การประกาศข่าวประเสริฐไม่จำเป็นต้องทำแบบเดิมๆ เช่น การร้องเพลงคริสเตียนบนท้องถนน หรือแจกจ่ายพระคัมภีร์และบทสวดเกี่ยวกับพระเยซู แต่ควรเป็นการที่เราเป็นประจักษ์พยานของพระคริสต์ทุกที่ที่เราไป และถ้าเราสามารถทำเช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพฯ หรือในประเทศไทย ในอินโดนีเซีย หรือที่ชิคาโก ผมเชื่อว่าผู้คนจะมองเห็นพระเยซูผ่านชีวิตของเรา และนั่นคือการประกาศข่าวประเสริฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
อ.ซิดนีย์ยังกล่าวถึงคำพูดของบิลลี่ เกรแฮมที่ว่า “เราเป็นพระคัมภีร์ที่โลกไม่เคยอ่าน” ซึ่งเป็นความจริง คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยอาจไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ แต่พวกเขาสามารถเห็นชีวิตของเราและสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างที่แตกต่าง และเราสามารถบอกพวกเขาได้ว่าเป็นเพราะพระเยซูคริสต์