พูดคุย เสวนา หัวข้อ Mission ในงาน "พันธกิจโลก พันธกิจเรา" ให้คริสตจักรไทยเข้าใจพันธกิจโลก

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2025 ที่คริสตจักรไมตรีจิต มีการจัดงาน "พันธกิจโลก พันธกิจเรา" เป็นงานพูดคุย เสวนา หัวข้อ Mission ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธกิจโลกแก่คริสตจักรไทย 

ในงาน มีการนมัสการจากวง True Worshipers เสวนาที่แนะนำถึงที่มาของงานประกาศข่าวประเสริฐต่างๆ และสร้างความเข้าใจและทัศนคติต่อพันธกิจโลกของคริสตจักรไทย โดยในช่วงเช้า มีการบรรยายเพื่อทำความรู้จักกับพันธกิจโลกและบทบาทของคริสเตียนต่อพันธกิจโลก โดยมี ศจ.ดร.นรินทร์ ศรีทันดร อดีตผู้อำนวยการสรรหามิชชันนารี OMF Thailand Homeside, ศจ.ดร.วินิช วงศ์สรรเสริญ ศบ.คจ.อิมมานูเอลแบ๊บติส และ อ.ณัฐพงศ์ พงศ์เสาวภาคย์ ผู้ดูแลพันธกิจบ้านชาโลมกรุงเทพฯ คจ.พระสิริกรุงเทพ เป็นผู้บรรยาย

หัวข้อต่อมาคือหลักสูตรพันธกิจโลก ที่จะให้คริสตจักรต่างๆ เข้าใจว่าการศึกษาเพื่อทำพันธกิจโลกนั้นเป็นอย่างไร มี ดร.เดวิด ชาง ผู้ประสานงานหลักสูตร M.Miss พระคริสตธรรมกรุงเทพ, อ.ชุมแสง เรืองเจริญสุข ก.ก.ที่ปรึกษาหลักสูตรมิติทัศน์กระแสคริสเตียนโลก ประเทศไทย และ อ.สมยศ วิจารณ์นิกรกิจ ปธ.ก.ก.ไครอส กรุงเทพฯ กับหลักสูตรไครอส โดยมี อ.อุดม อุดมเดชวัฒน์ ผอ.หลักสูตรมิติทัศน์กระแสคริสเตียนโลก ประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินรายการ

ในช่วงบ่ายมีกิจกรรม Mission is Possible เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้รู้จักกับพันธกิจมิชชันนารีระดับโลกต่างๆ ประจำประเทศไทยเน้นว่าเปิดโอกาสให้คริสตจักรเรียนรู้แนวทางปฏิบัติจริง ศึกษาแบบอย่างการสร้างสาวก และการส่งมิชชันนารีในระดับสากล มี อ.ธนวัฒน์ วิชาพร ผอ.สรรหามิชชันนารีไทย OMF, อ.วาสนา บัวคำ ผอ.OM ประเทศไทย, ผป.วรากร อัศวรักษ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร SIM ประเทศไทย และ อ.ธราวัตร สืบทายาท ผอ.วิคลิฟไทย เป็นผู้บรรยาย

นอกจากนี้ภายในงาน ยังมีบูธของพันธกิจต่างๆ ที่คริสเตียนสามารถมีส่วนร่วมในการร่วมทำพระมหาบัญชาประกาศข่าวประเสริฐได้

อ.อุดม อุดมเดชวัฒน์ ผู้อำนวยการหลักสูตรมิติทัศน์กระแสคริสเตียนโลก (Perspectives) ประเทศไทย กล่าวว่า งาน 'พันธกิจโลก พันธกิจของเรา' วันนี้ มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างความเข้าใจ (create awareness) เกี่ยวกับพันธกิจโลกให้กับคริสตจักรไทย มากกว่าการคาดหวังผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในทันที เพราะคริสตจักรหลายแห่งยังไม่เข้าใจแนวคิดของพันธกิจโลกอย่างแท้จริง

"เราได้รวบรวมองค์กรพันธกิจต่างๆ มาแบ่งปันและอธิบายถึงบทบาทของแต่ละองค์กร โดยเฉพาะการแยกให้เห็นความแตกต่างระหว่าง 'มิชชั่นฟรอนเทียร์' ซึ่งหมายถึงองค์กรที่ส่งมิชชันนารีออกไปแนวหน้า เช่น OMF, SIM, Wycliffe และ OM กับ 'Mission Education' ที่เน้นการศึกษาเพื่อสร้างความเข้าใจพันธกิจโลก เช่น หลักสูตร M.Miss ของพระคริสตธรรมกรุงเทพ, ไครอส และ Perspectives ซึ่งผมเองเป็นผู้ดูแลอยู่ในเวลานี้"

งานมิชชันนารีในประเทศไทย เราต้องยอมรับว่ายังไม่รุดหน้าไปมากนัก โดยส่วนใหญ่เป็นพันธกิจที่เริ่มต้นจากองค์กรต่างประเทศ ซึ่งกำหนดแนวทางและกฎเกณฑ์จากบริบทสากล อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกประเทศที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวทางเดียวกันทั้งหมด "ผมจึงอยากให้คริสตจักรไทยมีความเข้าใจว่า แต่ละองค์กรมีแนวทางอย่างไร และเลือกองค์กรที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคริสตจักรและบริบทของประเทศที่ต้องการรับใช้"

อ.อุดม กล่าวว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำความเข้าใจคือความหมายของ 'มิชชันนารี' ในปัจจุบันแตกต่างจากบริบทในพระคัมภีร์ใหม่ "คำว่า 'ผู้ที่ถูกส่งออกไป' ในอดีตอาจหมายถึงการเดินทางไปประกาศในดินแดนห่างไกล แต่ทุกวันนี้ งานมิชชันสามารถเกิดขึ้นได้แม้อยู่ในบ้านของเราเอง เช่น การประกาศกับผู้อพยพจากเวียดนาม พม่า และลาว ที่เข้ามาในประเทศไทย นี่คืองานประกาศข้ามวัฒนธรรม (cross-cultural mission)"

นอกจากนี้ งานมิชชันยังเป็นขององค์รวม ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ตัวบุคคล มิชชันสามารถเกิดขึ้นจากการอธิษฐานสนับสนุน ผู้เชื่อที่อยู่เบื้องหลังก็มีบทบาทสำคัญ เช่น การอธิษฐานเผื่อ "การดูแลครอบครัวของผู้รับใช้ การสนับสนุนทางด้านทรัพยากร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจโลกที่คริสตจักรไทยสามารถมีส่วนร่วมได้"

________________________________________

ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook