เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้
การให้ที่มาจากใจ หนึ่งในวิธีรับใช้พระเจ้าที่เป็นเหตุให้มีความสุขไปถึงสังคม
ศาสนาจารย์ ดร.ศาสวัต มูลสถาน ศิษยาภิบาลคริสตจักรที่สอง สามย่าน ได้กล่าวถึงหัวข้อ "ด้วยการให้" หัวข้อที่เคยเทศนา ที่เน้นถึงการให้ที่มาจากใจตามหลักการของพระคัมภีร์ ที่นับว่าเป็นการรับใช้พระเจ้าทางหนึ่ง ซึ่งจะทำให้คนได้เห็นพระเจ้าผ่านทางชีวิตของเราอีกด้วย
ความหมายของการให้ในสังคมไทย
ศจ.ดร.ศาสวัต กล่าวว่า คนไทยมีความจริงจังกับการให้ แม้ตนเองจะไม่มีทรัพย์สินมากพอ แต่ก็ยังอยากจะให้โดยเฉพาะในเรื่องของการทำทาน การให้แบบนี้บางครั้งอาจเป็นการให้โดยไม่คิดถึงผลกระทบต่อตัวเองหรือคนอื่น การให้ที่มากเกินไปจนถึงขั้นต้องยืมคนอื่นมาให้ อาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องตามหลักของพระเจ้า
“เราคนไทยอาจจะเข้าใจการให้แค่รู้สึกว่ามันมีความสุข แต่ไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับที่ตัวเองให้ทั้งต่อตัวเองและต่อคนอื่นด้วย”
การให้ที่ยั่งยืนในมุมมององค์กร
การให้แบบยั่งยืนขององค์กรขนาดใหญ่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก องค์กรใหญ่ ๆ มักจะเน้นการให้ที่สร้างคน เช่น การให้ทุนการศึกษา การให้แบบนี้เป็นการให้ที่ไม่มีเงื่อนไขและมองเห็นถึงอนาคต เน้นการพัฒนาคนและชุมชนอย่างยั่งยืน โดยการให้ที่ยั่งยืนจะไม่ใช่การให้แล้วจบไป แต่เป็นการให้ที่ส่งเสริมและสร้างสรรค์ความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาว
การให้ตามหลักพระคัมภีร์
การให้ตามหลักพระคัมภีร์นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง "การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ" เป็นคำสอนที่คริสเตียนยึดถือ แต่บางครั้งเราอาจไม่ได้คิดถึงปลายทางของการใช้ประโยชน์จากการให้ ซึ่งการให้ที่ดีควรเป็นการให้ที่มาจากใจ ไม่ใช่การให้ที่ฝืนกำลังของตนเอง หากการให้ทำให้เราไม่มีความสุข อาจเป็นเพราะเรายังไม่พร้อมที่จะเป็นผู้ให้
“บางทีเราก็อาจจะไม่ได้คิดว่าปลายทางของคนที่รับเนี่ยเขาเอาไปใช้อะไร เราก็อาจจะคิดไม่ได้คิดมากขนาดนั้น เพียงแต่เราคิดว่าได้ให้ก็มีความรู้สึกมีความสุขละ เพราะว่าเราคิดว่าการให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ”
การให้คือการช่วยสังคมและรับใช้พระเจ้า
การให้นอกจากทำให้เรามีความสุข ก็ยังเป็นการสร้างบรรยากาศของชุมชนให้เป็นไปในทิศทางที่มีความสุข สามารถช่วยให้คนได้รับกำลังใจและแก้ปัญหาวิกฤตของชีวิตได้
“การให้ก็สามารถทำให้ชุมชนที่อาจจะมีปัญหามีวิกฤตบางอย่างได้รับการแก้ไข เป็นการสร้างบรรยากาศของชุมชนให้เป็นไปในทิศทางที่มีความสุขได้ ช่วยให้คนได้ได้รับกำลังใจและแก้ปัญหาวิกฤตของชีวิตของเขาได้ นับว่าเป็นการรับใช้พระเจ้า ที่จะทำให้คนได้เห็นพระเจ้าผ่านทางชีวิตของเราด้วย”
________________________________________
ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook