เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

บ.คริสเตียนไทย จับมือ กทม. เปิดระบบตรวจสอบอาคารหลังแผ่นดินไหว

CROSSWORK ASIA บ.คริสเตียนไทย จับมือ กทม. เปิดระบบตรวจสอบอาคารหลังแผ่นดินไหว รับใช้พระจ้าและสังคมผ่านเทคโนโลยี


หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025 ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของเมียนมาและสามารถรับรู้ได้ถึงหลายภูมิภาคของประเทศไทย กรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารเร่งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคาร และรายงานผลต่อทางกรุงเทพมหานครภายใน 2 สัปดาห์ โดยมีการเปิดระบบรายงานผลผ่าน Google Form เมื่อวันที่ 29 มีนาคม


ไม่กี่วันต่อมา กรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับบริษัท CROSSWORK ASIA บริษัทเทคโนโลยีของคริสเตียน พัฒนาแพลตฟอร์ม “Building Inspection Dashboard” ระบบที่ช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบสถานะความปลอดภัยของอาคารที่พักอาศัยหรือทำงานได้ด้วยตนเอง โดยแดชบอร์ดจะแสดงผลตามรายงานที่เจ้าของอาคารและผู้ตรวจสอบกรอกเข้ามา ครอบคลุมอาคาร 9 ประเภทตามกฎหมายควบคุมอาคารในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเข้าใช้งานระบบได้ที่: Building Inspection Dashboard รายงานตรวจสอบอาคารในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยผู้ตรวจสอบอาคาร


เกรียงไกร พิพัฒน์วิไลกุล หรือ "เคเค" CEO ของ CROSSWORK ASIA กล่าวว่า แรงบันดาลใจในการสร้างแดชบอร์ดนี้มาจากการทรงนำของพระเจ้า หลังจากเกิดแผ่นดินไหว เขารู้สึกว่าพระเจ้าตรัสให้เริ่มลงมือพัฒนาแอปในวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม


“พระเจ้าบอกให้ทำแอป... เราก็อธิษฐาน คิด ค้นหา จนได้โมเดลนี้ออกมา คนช่วงนั้นแพนิค ไม่มีใครรู้ว่าต้องทำอะไร แอปนี้จึงเป็นคำตอบในช่วงเวลาที่สังคมต้องการความมั่นใจ” เกรียงไกรกล่าว


จากข้อมูลล่าสุด มีอาคารที่ลงทะเบียนตรวจสอบในระบบทั้งหมด 4,491 อาคาร โดยในจำนวนนี้ปลอดภัย 4,269 อาคาร และอีก 222 อาคารปลอดภัยแต่ต้องมีการซ่อมแซมเฉพาะจุด ข้อมูลทั้งหมดเปิดให้ประชาชนเข้าตรวจสอบสถานะผ่านแดชบอร์ดได้แบบเรียลไทม์


เกรียงไกรยังกล่าวเพิ่มเติมว่า CROSSWORK ASIA เป็นบริษัทของคริสเตียนโปรแตสแตนท์ร้อยเปอร์เซ็นต์ และได้มุ่งเน้นการทำธุรกิจเพื่อรับใช้สังคมโดยไม่หวังกำไรสูง โดยเปิดโอกาสให้ภาครัฐสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ของประชาชน


“ถ้าเราไม่เป็นคริสเตียน เราทำแบบนี้ไม่ได้ เราจ่ายเงินเดือนทีมงานสูง แต่ไม่หากำไรจากงานภาครัฐ เพราะเรามีเป้าหมายคือการรับใช้...พระเจ้าทรงจัดเตรียมทุกอย่าง” เขากล่าว


แนวคิดเบื้องหลังการทำงานของบริษัท CROSSWORK ASIA เป็นบริษัทของคริสเตียน 100% ที่มุ่งใช้เทคโนโลยีเพื่อรับใช้พระเจ้าและสังคมโดยไม่เน้นกำไรเป็นหลัก “เมื่อก่อนเรามีพาร์ทเนอร์ที่ไม่ใช่คริสเตียน เราไม่สามารถทำสิ่งที่อยากทำได้เต็มที่ แต่วันนี้เราเปิดบริษัทที่วางพระเจ้าไว้ก่อน ทำให้สามารถทำเพื่อประเทศได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องผลตอบแทน” เกรียงไกรกล่าว

เขายังเล่าว่า บริษัทให้เงินเดือนพนักงานสูงกว่าค่าเฉลี่ยในตลาด และหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ค่าเช่าออฟฟิศ เพื่อให้สามารถนำทรัพยากรไปทุ่มเทในงานที่ตอบสนองสังคมและภาครัฐได้อย่างเต็มที่ ปัจจุบัน CROSSWORK ASIA ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและผู้ให้ความรู้ด้าน AI แก่หน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง รวมถึงกรุงเทพมหานคร กระทรวงอุตสาหกรรม และสภากาชาดไทย นอกจากนี้ ยังพร้อมสนับสนุนด้านการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐต่อไปในอนาคต

เบื้องหลังของการก่อตั้ง CROSSWORK ASIA เริ่มจากการเชื่อฟังเสียงของพระเจ้า เคเคเล่าว่าเขาเคยมีบริษัทเดิมที่ประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ระดับหลักล้านบาทต่อปี แต่ในปีที่ 7 พระเจ้าตรัสให้เขาปิดบริษัท โดยอ้างอิงจากเลวีนิติที่ว่า “หกปีจงทำงาน แต่ปีที่เจ็ดจงหยุด” ในตอนแรกเขายังลังเลและพยายามดื้ออยู่เจ็ดเดือน ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวกลับไม่มีลูกค้าเข้ามาเลย และต้องใช้เงินสำรองจ่ายเงินเดือนพนักงานโดยไม่มีรายได้เข้ามา จนสูญเสียไปกว่าหนึ่งล้านบาท

ในที่สุด เขาจึงยอมปิดบริษัทตามที่พระเจ้าตรัส และหลังจากพักไปเจ็ดวัน พระเจ้ากลับตรัสให้เขาเริ่มต้นบริษัทใหม่ทันที — บริษัทที่จะเป็นของพระเจ้า ดำเนินการโดยคริสเตียน และทำภารกิจเพื่อพระองค์โดยตรง ในนาม "CROSSWORK" หรือ “งานของไม้กางเขน”

หลังจากจดทะเบียนบริษัทใหม่ได้ไม่นาน หน่วยงานภาครัฐที่เคยทำงานด้วยก็เริ่มติดต่อกลับมา พร้อมเสนอโปรเจกต์มากมายอย่างต่อเนื่อง “แค่สัปดาห์แรกของการเปิดบริษัทใหม่ ภาครัฐก็กลับมาทำงานกับเราหมดเลย” เคเคกล่าว
สำหรับเขาแล้ว การเป็นธุรกิจคริสเตียนไม่ใช่แค่การติดป้ายหรือใช้ชื่อ แต่คือการวางพระเจ้าเป็นศูนย์กลางของทุกการตัดสินใจ — และนั่นคือรากฐานของพันธกิจที่ CROSSWORK ASIA กำลังรับใช้อยู่ทุกวันนี้



________________________________________

ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook